kingstar-electronic.com

มารยาท ใน การ รับ โทรศัพท์ ใน งาน บริการ

บริษัทที่ตรวจสอบสายโทรเข้ามักจะกล่าวเช่นนั้นในตอนต้นของการบันทึกเสียง ถ้าเขาไม่ได้บันทึกไว้จริงๆ ก็ให้คิดว่ามันช่วยให้คุณใช้น้ำเสียงแบบมืออาชีพที่สุด แต่ถ้ามีการบันทึกจริงๆ คุณก็อาจจะใช้โอกาสนี้ฟังว่าตัวเองดูเป็นอย่างไรเวลาคุยโทรศัพท์ และถ้าจำเป็นก็ค่อยนำไปปรับปรุง ส่วน 2 ของ 3: โอนสาย 1 ขอให้เขาถือสายรอแล้วรอให้เขาตอบรับก่อนค่อยโอนสาย. ปัญหาใหญ่ของหลายๆ บริษัทก็คือปล่อยให้อีกฝั่งถือสายรอนานเกินไป ถ้าไม่ใช่พระสายวิปัสสนาแล้วล่ะก็ คนส่วนใหญ่ไม่ชอบถือสายรอสักเท่าไหร่และพวกเขาก็มักจะคิดว่าตัวเองต้องถือสายรอนานกว่าความเป็นจริงสองเท่าด้วย การปล่อยให้เขาถือสายรอแค่แป๊บเดียวจะช่วยให้คุณไม่ต้องเจอกับคนรอสายหัวร้อนตอนคุณกลับมา! 2 แน่ใจว่าคนที่เขาต้องการพูดด้วยอยากรับสาย. เวลาที่เขาโทรมาหาคนอื่น ให้บอกเขาหรือเธอว่าคุณจะ "โอนสายให้" ก่อนให้เขาถือสายรอ จากนั้นดูว่าคนที่เขาต้องการพูดด้วย ก) ว่าง และ ข) พร้อมที่จะรับสาย ถ้าไม่ ก็ให้บันทึกข้อความอย่างละเอียดแทน 3 ใช้ภาษาให้ถูกต้อง. จดบันทึกรายละเอียดให้ถูกต้องตามหลักภาษา เรียบเรียงถ้อยคำให้เข้าใจง่าย และตรวจการสะกดด้วย ระวังน้ำเสียงของตัวเอง. คนที่โทรมาเข้ารับรู้เจตนาที่แท้จริงของคุณได้ผ่านทางน้ำเสียง ไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์หรือต่อหน้า น้ำเสียงก็สื่อความหมายได้มากกว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของคุณ กุญแจสำคัญของการพูดโทรศัพท์ก็คือให้ยิ้มในใจ!

วิธีการ รับโทรศัพท์แบบมืออาชีพ - wikiHow

bio essence น้ำ ต บ

Music Thailand - แหล่งรวมเนื้อเพลงที่ครบเครื่องที่สุดในปัจจุบัน

ร้าน ซ่อม ps2 ใกล้ ฉัน

Msi b350m gaming pro ราคา specs

การยิ้มเป็นสิ่งที่ผู้บริหารอาวุโสของบริษัทคอลเซ็นเตอร์แห่งหนึ่งให้ความสำคัญมาก เขาวางกระจกไว้ที่โต๊ะของพนักงานคอลเซ็นเตอร์แต่ละคนพร้อมกับข้อความว่า "สิ่งที่คุณเห็นคือสิ่งที่เขาได้ยิน! " 5 ถ้าทำได้ให้เรียกชื่อของคนที่โทรมา. วิธีนี้สร้างความประทับใจส่วนตัวและแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังฟังอยู่ "ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณจักริน แต่ตอนนี้คุณมนชัยไม่สะดวกรับสายค่ะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ดิฉันช่วยหรือว่าจะฝากข้อความไว้ไหมคะ" 6 บอกชื่อตัวเองก่อนเวลาเรียกอีกฝ่าย. เช่น พูดว่า "ดิฉันมนัสนันท์ ขอสายคุณเลิศพงศ์ มนนัทธ์ธรค่ะ" แต่ก็อย่าเยิ่นเย้อ คุณควรเข้าประเด็นทันทีและไม่ต้องร่ายรายละเอียดที่ไม่จำเป็น 7 จบบทสนทนาอย่างมืออาชีพ. พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า "ขอบคุณมากนะคะ สวัสดีค่ะ! " ส่วน 3 ของ 3: รับมือกับสายที่มีปัญหา 1 ฝึกทักษะการฟังอย่างตั้งใจ. อย่าเถียงหรือพูดแทรกลูกค้า แม้ว่าเขาจะเข้าใจผิดหรือคุณรู้ว่าเขาหรือเธอจะพูดอะไรต่อก็ตาม ปล่อยให้เขาหรือเธอได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจ การฟังอย่างตั้งใจเป็นการสร้างอัธยาศัยไมตรีและช่วยให้ฝ่ายที่หัวเสียอารมณ์เย็นขึ้นได้มาก [1] 2 ลดเสียงลงและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ. ถ้าลูกค้าเริ่มขึ้นเสียง ให้เริ่มพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงที่สม่ำเสมอ คนที่สงบ (เมื่อเทียบกับคนที่กระวนกระวายหรือตื่นตระหนก) จะสามารถทำให้อีกฝ่ายสงบลงได้ การไม่สะทกสะท้านกับความดังหรือน้ำเสียงของลูกค้าสามารถช่วยให้คนที่โกรธหรือไม่พอใจกลับมามีสติได้ 3 สร้างอัธยาศัยไมตรีผ่านความเข้าใจ.

QRCode Monkey - QR Code Generator ฟรีสำหรับสร้างรหัส QR แบบกำหนดเองพร้อมโลโก้

เสื้อ คลุม วิ บ วับ

อีเมล แชตสด การสอบถามผ่านทางเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียล้วนมีกลุ่มผู้ใช้ของตัวเอง แต่พอเป็นเรื่องธุรกิจแล้วหลายคนก็ยังชอบสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์มากกว่า กี่ครั้งแล้วที่คุณพูดกับใครทางโทรศัพท์และคิดว่าทำไมเขาหรือเธอถึงไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย และเราก็คงไม่อยากให้คนอื่นพูดถึงเราแบบนั้น บทความนี้จะมาเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการรับโทรศัพท์แบบมืออาชีพ ส่วน 1 ของ 3: รับโทรศัพท์ 1 วางกระดาษกับปากกาไว้ข้างตัว. บันทึกสายที่โทรเข้ามาด้วยการเขียนชื่อ เวลาที่เขาหรือเธอโทรมา และเหตุผลลงไป ถ้าจะให้ดีควรเขียนลงบนกระดาษโน้ตที่มีแผ่นก็อปปี้อยู่ข้างใต้ เพราะจะช่วยบันทึกสายที่โทรเข้ามาไว้ในที่เดียว และถ้าสายนั้นไม่ได้โทรมาหาคุณ คุณก็สามารถให้สำเนาข้อมูลที่จดไว้กับคนที่เขาโทรหาได้ 2 พยายามอย่ารับโทรศัพท์ช้าเกิน 2-3 กริ๊ง. ไม่มีใครชอบถูกบังคับให้ต้องรอ การรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็วทำให้คนที่โทรมาซึ่งบ่อยครั้งมักจะเป็นลูกค้ารู้ว่าบริษัทนี้ทำงานมีประสิทธิภาพ และยังทำให้คนที่โทรมารู้สึกว่าตัวเองสำคัญด้วย 3 บอกชื่อของคุณและชื่อบริษัท. เช่น พูดว่า "สวัสดีค่ะ บริษัทเวสต์โคสต์ดรายวอลล์แอนด์เพนต์ค่ะ บุญศิริพูดสายค่ะ" และเช่นเดียวกันคือให้ถามคนที่โทรมาว่าเขาเป็นใครและโทรมาจากที่ไหนถ้าเขาไม่ได้บอกรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริษัทมีนโยบายต่อต้านการโทรศัพท์ก่อกวนอย่างเข้มงวด 4 ถามคำถามให้ถูกต้อง.

คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้า แสดงออกให้คนที่โทรมารู้ว่าคุณรับรู้ถึงความคับข้องใจและความไม่พอใจของเขา เพียงเท่านี้ก็ช่วยทำให้อีกฝ่ายใจเย็นลงได้มากแล้ว วิธีนี้เรียกว่า "การพยักหน้าด้วยคำพูด" และช่วยให้คนที่โทรมารู้สึกว่าคุณเข้าใจเขา 4 อย่าหงุดหงิดหรือโกรธ. ถ้าลูกค้าใช้คำพูดรุนแรงหรือหยาบคาย หายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อเหมือนว่าคุณไม่ได้ยิน การตอบโต้ในลักษณะเดียวกันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นและอาจจะทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลายด้วย บอกเขาว่าคุณอยากจะช่วยและคุณก็เป็นคนที่จะช่วยเขาหรือเธอแก้ปัญหาได้มากที่สุด คำพูดนี้มักช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ [2] 5 อย่าเก็บมาใส่ใจ. อยู่กับปัญหาที่อยู่ตรงหน้าและอย่าไปเก็บมาใส่ใจแม้ว่าลูกค้าจะว่าคุณก็ตาม จำไว้ว่าลูกค้าไม่รู้จักคุณ และเขาหรือเธอก็แค่ระบายความหงุดหงิดมาที่คุณเพราะว่าคุณเป็นตัวแทนของบริษัท ค่อยๆ ดึงบทสนทนากลับไปที่ปัญหาและวิธีการที่คุณตั้งใจจะใช้แก้ไขปัญหา และพยายามอย่าไปใส่ใจที่ลูกค้าว่าคุณ 6 จำไว้ว่าคุณกำลังคุยกับมนุษย์. ทุกคนเคยเจอวันแย่ๆ และเขาก็อาจจะเพิ่งทะเลาะกับสามีหรือภรรยามา โดนใบสั่ง หรือเพิ่งเจอเรื่องซวยซ้ำซวยซ้อน เราทุกคนเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้วทั้งนั้นไม่ว่าจะน้อยจะมาก เพราะฉะนั้นพยายามทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับเขาด้วยการนิ่งและทำใจให้สงบ เพราะคุณเองก็จะรู้สึกดีด้วยเหมือนกัน!

ฮ่องกง 5 วัน 4 คืน
  • ฉาบ zildjian a custom ราคา
  • Asrock h81 pro btc ราคา > corrosionproxy.com > Page 1
  • โปรแกรม ปิด update windows 10
  • ครีม กันแดด anessa mild milk rice
  1. The extenso เขต หนองจอก กรุงเทพมหานคร
  2. ตัดผมสั้นหน้าสั้นหลังยาว
  3. สังกะสี มือ สอง ใน ระยอง
  4. บริษัท ชิป ป๊ อป จำกัด
  5. หวย 1 ต ค 62
Monday, 02-May-22 22:52:40 UTC